เข้าเดือนเมษาทีไร ทุกคนเป็นต้องนึกถึงเทศกาลของไทย ก็คือวันสงกรานต์นั้นเอง ซึ่งขนมที่เป็นเมนูประจำวันสงกรานต์ ก็คือ ข้าวเหนียวแก้ว ที่มีวัตถุดิบหลักเป็นข้าวเหนียว มาพร้อมกับสีสันสดใสอย่างสีเขียว สีแดงดอกกุหลาบ สีน้ำเงิน แต่ในปัจจุบันการจะหาทานขนมชนิดนี้นั้นเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ต้องรอหน้าเทศกาลก็สามารถหารับประทานได้แล้ว แถมยังทำเองได้ง่ายๆอีกด้วย
ทำความรู้จักและขั้นตอน ข้าวเหนียวแก้ว ขนมหวานไทยสีสันสดใสน่ารับประทาน
ข้าวเหนียวแก้ว หรือใครหลายคนอาจจะคุ้นชื่อข้าวเหนียวแดง เป็นเมนูขนมหวานไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่มักจะทำขึ้นในช่วงวันสงกรานต์ ที่ใช้ข้าวเหนียวเป็นวัตถุดิบหลัก นำมาผสมกวนเข้ากับกะทิเพื่อให้ความมัน หวาน และเสริมเกลือให้ความเค็ม จะเห็นได้ว่าตัวข้าวเหนียวนั้นเมื่อทำออกมาจะมีสีสันหลากหลายสี บางสีทำมาจากธรรมชาติ และบางสีก็ใช้สีผสมอาหารนั้นเอง
ในสมัยก่อนจะให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์เป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เข้าวัดทำบุญหรือรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ แต่การทำขนมก็เป็นอีกประเพณีหนึ่งที่ชาวบ้านสมัยก่อนขาดไปไม่ได้ อาทิ การทำกาละแม ข้าวเหนียวแดง หรือข้าวเหนียวแก้วนั้นเอง จะเห็นได้จากชื่อขนมที่มีลักษณะเหนียวหนึบ ชาวบ้านจึงใช้โอกาสนี้พบปะเจอหน้ากัน
ซึ่งการทำขนมข้าวเหนียวแก้ว ที่เน้นวัตถุดิบหลักอย่างข้าวเหนียว แสดงให้เห็นว่าบ้านนั้นค่อนข้างมีฐานะ ไม่เพียงแต่ทำไปทำบุญตักบาตรในวันปีใหม่ไทย ยังนำไปแจ้งจ่ายให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นอีกด้วย และการทำขนมชนิดนี้มักต้องใช้แรงกวน เหมือนให้ชาวบ้านมาประชันฝีมือในการทำขนมแข่งกัน จึงเกิดความสนุกความครื้นเครง ทำให้ขนมชนิดนี้เป็นประโยชน์วันสงกรานต์
แต่ในปัจจุบันการหาทานข้าวเหนียวแก้วนั้นหาทานง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นว่าจะทานในวันสงกรานต์เสมอไป แถมขนมชนิดนี้ยังเป็นขนมทานเล่น ไว้รับประทานเมื่อยามว่าง หรือเพื่อนคนไหนทานพร้อมกับกาแฟให้ความหวานของขนมตัดความขมก็อร่อยไปอีกแบบ อย่างนั้นเราไปดูกันว่าข้าวเหนียวแก้ว วิธีทำจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
วัตถุดิบของข้าวเหนียวแก้ว
1. ข้าวเหนียวใหม่ 500 กรัม (แช่น้ำ 1 คืน)
2. กะทิ 500 กรัม
3. น้ำสะอาด 200 กรัม
4. น้ำตาลทราย 600 กรัม
5. เกลือ 5 กรัม
6. สีผสมอาหาร (สีแดง)
7. สีเขียว จากน้ำใบเตย
8. สีน้ำเงิน จากดอกอัญชัน
ขั้นตอนการทำข้าวเหนียวแก้ว
1. เตรียมข้าวเหนียวเอาไว้ โดนนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน หรืออย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง
2. แช่เสร็จแล้ว นำผ้าขาวบางกรองน้ำออกให้จนหมด แล้วนำไปนึ่งประมาณ 40 นาที หรือจนกว่าข้าวเหนียวจะสุกนั้นเอง
3. หลังจากนั้นมาเตรียมในส่วนของน้ำกะทิ นั้นกะทิ เกลือ น้ำตาลทราย 400 กรัม คนจนกว่าเกลือและน้ำตาลจะละลาย
4. นำข้าวเหนียวที่นึ่งใหม่ๆยังร้อนๆอยู่ นำลงไปคนกับน้ำกะทิที่เตรียมไว้ แนะนำอย่าให้ตัวเม็ดข้าวแตกหัก ให้คนเบาๆเท่านั้น พอเข้ากันแล้วให้พักทิ้งไว้ก่อน ประมาณ 20-25 นาที
5. นำข้าวเหนียวที่พักไว้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนเพื่อจะได้เป็น 3 สีนั้นเอง
6. ให้นำสีที่ 1 สีเขียว ให้นำน้ำใบเตยที่เตรียมไว้ ซึ่งการทำน้ำใบเตยให้นำใบเตยไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆปั่นกับน้ำ แล้วนำมากรองกับผ้าขาวบาง พอได้นำใบเตยแล้วมาผสมกับข้าวเหนียวที่เตรียมไว้ เติมน้ำตาลลงไป แล้วนำไปกวนด้วยการตั้งไฟอ่อน (ใครชอบสีเข้ม สีอ่อน ให้ใส่น้ำใบเตยตามความต้องการ)
7. เตรียมสีที่ 2 คือสีแดง จะใช้เป็นสีผสมอาหาร นำไปผสมกับข้าวเหนียว เติมน้ำตาล แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน
8. เตรียมสีที่ 3 คือสีน้ำเงินจากดอกอัญชัน การทำน้ำดอกอัญชันให้นำไปขยำกับน้ำเพื่อที่จะได้สีน้ำเงินออกมา ได้น้ำอัญชันแล้วผสมกับข้าวเหนียว เติมน้ำตาล แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน
9. ซึ่งการตั้งไฟอ่อนทั้ง 3 สี ให้กวนจนกว่ากะทิจะแห้ง
10. จัดเตรียมพิมพ์สำหรับหยอดขนม นำขนมที่ได้หยอดลงไป พักให้ขนมหายร้อนแล้วค่อยนำไปเสิร์ฟ
จบไปแล้วสำหรับวิธีทำข้าวเหนียวแก้ว เพื่อนๆคนไหนชอบสีไหนหรืออยากทำให้ออกมาดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น สามารถทำสีตามความต้องการได้เลย ขั้นตอนการทำที่ได้บอกเพื่อนๆไปหวังว่าทุกคนจะลองเอาไปทำตามกันดู และเพลินไปกับความอร่อยของเมนูทานเล่นหรือเมนูขนมหวานชนิดนี้กันเยอะๆนะคะ
ขอบคุณรูปจาก bakery-lover.com
อ่านบทความ แจกสูตร ขนมตะลุ่ม ขนมไทยโบราณ หาทานยาก
Credit : ต้นไม้, สัตว์เลี้ยง, ที่พัก, เสริมสวย, แฟชั่นผู้หญิง, เครื่องสำอาง