ขนมพริกไทย หรือ เรียกอีกอย่างว่า คุ้กกี้พริกไทย ขนมพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ต น้อยคนนักที่จะรู้จักกับขนมชนิดนี้ แค่ชื่อก็ไม่คุ้นหูเอาซะเลย แต่แท้จริงแล้วขนมชนิดนี้เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งขนมโบราณและขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ หากใครแวะเวียนไปเที่ยว ก็ต้องแวะซื้อขนมพริกไทยกลับไปฝากคนที่บ้าน เพราะหาทานยากจริงๆ แถมยังมีสารพัดประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ทานได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตร หรือสาวๆที่ชอบทานขนมแต่ต้องควบคุมน้ำหนัก ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว
ขนมพริกไทย คืออะไร?
เรามาทำความรู้จักกับ ขนมพริกไทยกันดีกว่า ว่าจะมีลักษณะเป็นแบบไหน รสชาติอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบให้กับทุกคน สำหรับขนมพริกไทย หรือ คุ้กกี้พริกไทย เป็นขนมของว่าง ที่คนพื้นเมืองดังเดิมมักนิยมทานคู่กับน้ำชา เป็นอาหารว่างระหว่างวัน มีลักษณะคล้ายคุ้กกี้ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี มีรสชาติหวานกรอบ เผ็ดร้อนด้วยตัวเมล็ดพริกไทยดำ ทำให้รสชาติออกมาลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ หากใครที่ชอบทานพริกไทยห้ามพลาดกันเลยทีเดียว เรามาดูข้อดีของขนมชนิดนี้ดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
ข้อดีของ “ ขนมพริกไทย ”
ใครจะรู้ว่า ขนมพริกไทย ไม่เพียงแต่ให้ความอร่อยเคี้ยวเพลินระหว่างวันเท่านั้น แต่ยังมีข้อดีและคุณประโยชน์อีกเพียบ นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยสรรพคุณทางยา เพราะพริกไทยในขนมจะช่วยในเรื่องของแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ลดไขมัน ซึ่งชาวภูเก็ตดั้งเดิมมักนิยมนำไปฝากคุณแม่หลังคลอดอีกด้วย เพราะจะช่วยเรื่องขับสิ่งสกปรกได้ดี และอีกหนึ่งสรรพคุณที่สาวๆห้ามพลาด นั่นก็คือ ช่วยการควบคุมน้ำหนักทานแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน
วัตถุดิบ ของ ขนมพริกไทย
สำหรับวัตถุดิบส่วนผสมของ ขนมพริกไทย จะมีวิธีการทำแป้งด้วยกันสองส่วน ซึ่งวัตถุดิบต่างๆสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด
( ส่วนผสมแป้งส่วนที่ 1 )
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ (ความหวานสามารถเพิ่มได้ตามใจชอบ)
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ
( ส่วนผสมแป้งส่วนที่ 2 )
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายแดง ๒ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยเม็ดสีดำ 1/2 ช้อนชา หรือพริกไทยป่น 3/4 ช้อนชา
- งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงสับละเอียด 1 หัว (ใส่หรือไม่ก็ได้)
ขั้นตอนการทำ ขนมพริกไทย หรือ คุ้กกี้พริกไทย
- ( แป้งส่วนที่ 1 ) ขั้นแรกให้ใส่แป้ง เกลือ และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมกับทำหลุมกลางแป้ง และเติมน้ำลงไป 1 ช้อนโต๊ะ และใส่น้ำมันพืชลงไปคนให้เข้ากัน นวดให้เนียนและพักไว้
- ( แป้งส่วนที่ 2 ) โขลกพริกไทยและงาให้ละเอียดตามความเหมาะสม พร้อมกับใส่แป้ง น้ำตาลทรายแดง เกลือป่น พริกไทย งา และหอมแดงใส่ลงไป ผสมให้เข้ากันและทำหลุมกลางแป้งเช่นเดียวกัน รวมถึงใส่น้ำลงไป 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันพืชลงไป คลุกเคล้าจนแป้งรวมตัวเป็นก้อน เมื่อแป้งเนียนนวลแล้วให้พักทิ้งไว้
- นำแป้งส่วนที่ 1 แผ่ให้เป็นสี่เหลี่ยม หรือจะทำเป็นรูปทรงอื่นตามใจชอบก็ได้เช่นกัน
- นำแป้งส่วนที่ 2 แผ่ให้เป็นขนาดเท่ากับส่วนที่ 1 และวางทับซ้อนกันกดให้แป้งติดกัน
- หั่นแป้งเป็นชิ้นตามความชอบ วางเรียงในถาดอบขนม
- นำเข้าเตาอบ 350 ฟาเรนไฮต์ หรือ 180 องศาเซียลเซียส ประมาณ 15 – 18 นาที ซึ่งระยะเวลาขึ้นอยู่กับความหนาบางของตัวแป้งด้วยเช่นกัน
- เมื่อเสร็จให้นำออกมาพักให้เย็น เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลย
และทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนผสมและวิธีการทำ ที่เรานำมาแชร์ให้กับทุกคน หากว่าใครไม่ได้มีโอกาสไปซื้อรับประทานกันถึงถิ่นภูเก็ต ก็สามารถลองทำทานกันที่บ้านได้เลย แต่ขอแนะนำว่าต้องไปลองรับประทาน รสชาติต้นตำหรับกันก่อน เพราะอร่อยมากจริงๆ ซึ่งหากใครไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เราขอแนะนำ ร้านขายขนมพริกไทย ที่มีชื่อร้านว่า ร้านฟ้าใส เป็นเจ้าอร่อย ร้านเด็ด ร้านดัง ที่ใครๆก็ต้องไปเช็คอิน แน่นอนว่าเราต้องไปลอง เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว ก็ยังอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ด้วยนะคะ..
อ่านบทความ ขนมเต้าส้อ เมนูขนมมงคลจากแดนพังงา
Credit : เด็ก, แบบบ้าน, แอลกอฮอล์, มอเตอร์ไซค์, เครื่องดนตรีสากล